วัดเขาพระบาท เชียรใหญ่ นครศรีธรรมราช มีเอกสารบันทึกว่าชาวลังกามาสร้าง : เก็บตกจากสมุดบันทึกเมื่อปีก่อนที่เพิ่งหาเจอครับ

    เขาพระบาทที่เชียรใหญ่นี้ ปรากฏอยู่ในแผนที่เส้นทางจากปากพนังถึงทะเลน้อยที่รวมอยู่ในสมุดแผนที่กัลปนาพื้นที่เมืองนครให้กับวัดพระบรมธาตุสมัยพระเจ้าทรงธรรมด้วย มีชื่อ เขาพระบาท เขาไกรยไท เขาพรังเพรง สามเขาต่อเป็นทิวยาวพาดจากแนวตะวันออกเฉียงเหนือ มาตะวันตกเฉียงใต้ เขาพระบาทนี้ยังปรากฏในชื่อเขาพระ ในแผนที่แสดงตำแหน่งวัดตั้งแต่ปากพนังถึงหัวเขาแดงสมัยพระเพทราชา หรือที่มักเรียกกันว่าแผนที่กัลปนาวัดพะโคะ มีอยู่วันหนึ่งเลยชักชวนคุณ Komol Mangsee ลองไล่ตามจุดสำคัญในแผนโบราณที่นี้ดูเป็นการรีเสิร์ชเบื้องต้น ดูว่ามีอะไรน่าสนใจที่จะคิดทำต่อไปบ้าง

  แผนที่เส้นทางจากปากพนังถึงทะเลน้อยที่รวมอยู่ในสมุดแผนที่กัลปนาพื้นที่เมืองนครให้กับวัดพระบรมธาตุสมัยพระเจ้าทรงธรรมแสดงเขาพระบาท เขาไกรยไท เขาพรังเพรง ที่มา แผนที่เมืองนครศรีธรรมราช หมู่ตำราภาพ เลขที่ 164 หอสมุดแห่งชาติ ได้รับความอนุเคราะห์จาก พระครูเหมเจติยาภิบาล

   ในหนังสือกัลปนาที่หัวปากหัวพันพนัง (ตั้งแต่แหลมตลุมพุกถึงคลองระโนด) สมัยสมเด็จพระนารายณ์ ที่พระคณะกาแก้ววัดหน้าพระลาน เมืองนครศรีธรรมราชคัดลอกเก็บไว้สมัยธนบุรี ได้กล่าวถึงการสร้างวัดเขาพระบาทไว้สั้น ๆ ดังนี้ …อาธิเดิมสังฆเถรเหม แลออกนางศรีมาแต่เมืองลังกาแลมา หญิงสามชายสาม 6 ในนี้มาอยู่สทิงพระ แลมาตั้งเขาพระบาท มาอยู่ด้วยกันกับเหล่าหัวปากหัวพันพนัง…

    เอกสารไม่ได้บอกชัดว่าสังฆเถรเหมมาเมื่อไหร่ แต่ว่าดูเหมือนจะมาในช่วงคาบเกี่ยวกับที่ศรีมหาราชาพาผู้คนลงจากลานสกามารื้อฟื้นเมืองนครที่ถูกโจรสลัดทำลายขึ้นใหม่ในราวกลางพุทธศตวรรษที่ 22 ในวัดเขาพระบาทยังมีเสมาคู่ทำจากหินทรายแดง ซึ่งบางใบมีลายที่อาจกำหนดอายุอยู่ในช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 22 ได้ แต่เนื่องจากผมไม่ได้เจาะจงถ่ายเสมามาเลยก็เลยยังไม่มีภาพจะให้ดูเทียบครับ

    เมื่อออกจากวัดพัทธเสมาที่หัวไทร ได้ลองขับตามถนนเส้นในที่ตัดล้อแนวคลองบ้านกลาง ซึ่งจะใกล้กับทางตามแผนที่สมัยโบราณที่สุด ลงใต้มาทางทิวเขาพระบาท ทิวเขานี้มองในมุมนักเดิรทางจากพื้นราบเป็นของโดดเด่นจริง ๆ เป็นจุดหมายตาได้แต่ไกล ๆ ถามพระ ถามลุง ๆ ป้า ๆ เรื่องชื่อ ชื่อ พระบาท ไกรยไท พรังเพรง นี้ยังคงอยู่เหมือนในแผนที่โบราณ

    วัดได้สร้างมณฑปพระบาทหลังใหม่ขึ้นแทนหลังเดิมที่ชำรุดไปนานแล้ว #มีภาพถ่ายเก่าอยู่ในมณฑป เป็นภาพเมื่อเริ่มสร้างมณฑปใหม่ขึ้นเสา คสล. เตี้ย ๆ เตรียมไว้ วิธีการประดิษฐานพระบาทที่นี่น่าสนใจ จากภาพเก่านั้น เห็นฐานรองพระบาทของเดิมมุงจากอยู่ ทำเป็นฐานยกสูงราว 3.50 เมตร เหมือนเลียนอย่างการประดิษฐานพระบาทบนเขาอีกที แต่ที่จริงก็สร้างรอยพระบาทบนเขาอยู่แล้วที่ยกฐานขึ้นไปอีกนี่ดูเคยมีไอเดียเจาะจงบางอย่างที่เราไม่รู้

    รอยพระบาทเป็นรอยขวา ถ่ายลายมาด้วย แต่ออกเลือนเป็นโกลนลาย เขาเปลี่ยนภาพวิมานเป็นภาพเทวดาแทน ไม่มีความรู้จะดูเรื่องการวางลายก็เลยบันทึกรายละเอียดเผื่อใช้มาเฉย ๆ

    วัดนี้ยังมีโบสถ์โถงเรียบ ๆ ทรงโรง โครงสร้างจันทัน แปจัตตุรัส ซึ่งคงทำไม่เก่ากว่า ร.5 ทรงโบสถ์สวยทีเดียว ตั้งอยู่บนเนินถัดขึ้นไปจากมณฑปพระบาท ดูไอโซเลทจากส่วนอื่น ๆ มาก ทำให้มองเห็นว่ามีความตั้งใจเลือกที่ตั้งโบสถ์ให้สูง ไกลออกจากกลางวัดสำหรับให้เป็นที่สงัด

    มีพระลากไม้อยู่สี่องค์ เป็นมือช่างภาคใต้น่ารักอยู่ในกุฎิเจ้าอาวาส เจ้าอาวาสเป็นคนสุราษฎร์ ตอนไปป่วยอยู่ มีญาติจากสุราษฎร์มาอุปัฏฐาก จำได้เลือน ๆ ว่ามาจากดอนสัก

เผยแพร่ครั้งแรกใน - https://web.facebook.com/groups/menamluang/permalink/1196560060519068

ใส่ความเห็น