
หากกล่าวถึง คาบสมุทรสทิงพระ จังหวัดสงขลา แหลมที่ขนาบด้วยน้ำทะเล คือเลนอกหรือเลออก(ทะเลอ่าวไทย)และทะเลในหรือทะเลตก(ทะเลสาบสงขลา) ดินแดนแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของวัตถุดิบและภูมิปัญญาอาหารพื้นบ้าน แน่นอนว่าสิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงคงเป็น “น้ำส้มโหนด” ซึ่งทำมาจากน้ำหวานจากงวงต้นตาลโตนด(ต้นโหนด) เป็นรสส้มหรือรสเปรี้ยวคู่ครัวที่คนในพื้นที่ทำกันอย่างแพร่หลายตามวิถีการขึ้นตาล ผมเองก็มักจะต้องหิ้วน้ำส้มโหนดกลับมาทุกครั้งที่ได้แวะเวียนไปเดินตลาดแถบนี้
แต่ในการมาเยือนตลาดบ้านหัวเขา ตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา รอบนี้ มีการค้นพบที่น่าสนใจที่ร้านมะของเพื่อน (คุณนัสซี บูหล๊ะ) เพื่อนสมัยเรียนปอเนาะ แวบแรกที่เห็นขวดบรรจุน้ำสีขาวขุ่นๆอยู่ ผมเข้าใจไปเองว่าเป็น “น้ำส้มโหนด” จึงมุ่งความสนใจไปที่ขนมพื้นบ้านละลานตาที่ “มะ” ทำมาขายมากกว่า ไม่ว่าจะเป็น ขนมปำ, ขนมโค,ขนมจอก) ขนมเทียน, หัวมันต้ม, ขนมจอก, ขนมคอเป็ด, เหนียวซาวเงาะ หรือ เหนียวปลาแห้ง, เหนียวปั้น และ ยำสาย (สาหร่ายผมนาง) ซึ่งขนมเหล่านี้ล้วนมีมะพร้าวมาเป็นส่วนผสมหรือใช้กินคู่ด้วยทั้งสิ้น


หลังจากการอุดหนุนขนมพื้นบ้านเสร็จสิ้น และได้ถ่ายภาพส่งไปให้เพื่อนดู คำตอบที่ได้รับมานั้นทำให้ผมต้องกลับไปที่ร้านอีกครั้ง สิ่งที่ผมคิดว่าเป็น “น้ำส้มโหนด” นั้น แท้จริงแล้วคือ “น้ำส้มพร้าว” เรามักจะเข้าใจว่าน้ำส้มที่มาจากมะพร้าวคือ “น้ำส้มจากดอกมะพร้าว” แต่ “น้ำส้มพร้าว” ที่นี่ทำมาจาก น้ำมะพร้าวที่ได้จากในลูก โดยมะบอกเล่าว่าภูมิปัญญานี้มีมานานแล้วในชุมชน ท่าเสา ตำบลสทิงหม้อ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา (บ้านของมะ)
เพื่อนนัสซีเล่าเสริมว่า “…ทำแบบบ้านๆง่ายๆ เพราะมะทำขนมหลายอย่าง น้ำพร้าวเหลือเยอะแปรรูปเป็นน้ำส้มดีหวาทิ้ง ทำได้ไม่มากมีลูกค้าประจำรอซื้อกัน…” ผมจึงไม่พลาดที่จะอุดหนุนมาสองขวด ขวดละ 10 บาท พร้อมกับฝากอาจารย์พี่เกื่ออีกหนึ่งขวด มะยังได้แนะนำเคล็ดลับการใช้ รสชาติจะเปรี้ยวจัด เวลาแกงจึงไม่ควรใช้เยอะ สามารถใช้แกงกับปลาขี้ตัง หรือปลามีหลังได้หมดแล้วแต่ชอบ



รสชาติส้มจากภูมิปัญญา : แกงส้มปลาแส็กล้า
วันนี้ ผมได้นำ “น้ำส้มพร้าว” มาทดลองทำ แกงส้มปลาแส็กล้า ซึ่งเป็นปลาที่มีลักษณะคล้ายปลาลังหรือปลาทู และเป็นปลาที่หาได้จากทะเลอ่าวไทย ผมเลือกใช้สูตรเครื่องแกงส้มของของบ้านตัวเอง ซึ่งประกอบไปด้วย พริกสด, ขมิ้น, หอมแดง, กระเทียม, ตะไคร้ และปรุงรสด้วย เกลือ เพียงอย่างเดียว
วิธีทำแกงส้ม : สัมผัสรสชาติใหม่
1. ตั้งน้ำให้เดือด และละลายเครื่องแกงลงไป
2.รอให้น้ำแกงเดือดอีกครั้ง จึงใส่ปลาแส็กล้าลงไป
3.รอจนปลาใกล้สุก ถึงเวลาปรุงรสด้วย “น้ำส้มพร้าว”






ขณะที่เปิดฝาขวดน้ำส้มพร้าวออกมา กลิ่นที่ลอยขึ้นมานั้นมีความใกล้เคียงกับน้ำส้มโหนด แต่เมื่อชิมดูรสชาติจะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ผลลัพธ์ที่ได้คือ แกงส้มปลาแส็กล้า ที่สดใหม่ รสชาติ “ส้ม” หรือรสเปรี้ยวที่ได้จากน้ำส้มพร้าวสูตรของมะนั้น ไม่มีกลิ่นหมักรบกวน รสชาติเปรี้ยว มีความกลมกล่อม เข้ากันได้ดีกับเครื่องแกง น้ำแกงดูมีลักษณะที่ใส และเมื่อได้ลิ้มลองแล้วก็รู้สึก สดชื่น ขึ้นมาทันที

“น้ำส้มพร้าว” จึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องพิสูจน์ถึงความอุดมสมบูรณ์ของวัตถุดิบมะพร้าว และภูมิปัญญาการแปรรูปที่ไม่ทิ้งขว้างของคนคาบสมุทรสทิงพระ ซึ่งสร้างสรรค์จากวัตถุดิบเหลือใช้เป็น วัตถุดิบปรุงรสที่เรียบง่ายแต่ทรงคุณค่าและน่าภาคภูมิใจ สำหรับผู้ที่สนใจ “น้ำส้มพร้าว” มรดกภูมิปัญญาการแปรรูปจากน้ำมะพร้าวของคนคาบสมุทรสทิงพระ สามารถไปอุดหนุนและพบกับผู้ผลิต (มะ) ได้ตาม ตลาดนัด ในพื้นที่ดังต่อไปนี้ ตลาดนัดเช้าวันอังคารกับวันศุกร์ ที่ตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา, ตำบลสทิงหม้อ (พื้นที่บ้านท่าเสา) อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา