ฉากที่ ๒ แบ่งพระบรมสารีริกธาตุ

          พราหมณ์โหราทราบข่าวว่ากษัตริย์ทั้งหลายจะทำสงครามกันแย่งพระบรมธาตุหลังการถวายพระเพลิง ก็เสนอทางออกโดยการตวงแบ่งพระบรมธาตุเป็นกองเท่า ๆ กัน

๏ ยังมีโหรพราหมณ์ ครั้นแจ้งข้อความ

ลนลานมาพลัน นั่งฟังปรึกษา เห็นเป็นแข็งขัน

มิลงใจกัน ทุกอันถ้วนถี่

๏ อยู่เป็นอุปราช ชาติเชื้อนักปราชญ์

ฉลาดพาที จะวุ่นวายนัก เห็นจักอัปรีย์

ธาตุพระชินศรี ราคีหมองหมาย

๏ คิดแล้วไม่ช้า นั่งฟังปรึกษา

ออกว่าเป็นกลาง ท้าวไททั้งหลาย อย่าได้ขัดขวาง

ท่านคิดปลงวาง ในทางกุศล

๏ พญาฟังพราหมณ์ ถ้อยคำซึ่งห้าม

ลงตามบัดใจ ตอบลิขิตสาร ท่านแม่กองใหญ่

อย่าได้ร้อนใจ เราจักปันกัน

          และได้ลอบนำพระทันตธาตุองค์หนึ่งซ่อนเอาไว้ในมุ่นมวยผม พระอินทร์ส่งทิพยเนตรลงมายังเมืองกุสินาราที่แบ่งพระธาตุนั้น ทรงทราบเหตุทั้งหมดก็แอบไปอัญเชิญพระทันตธาตุจากมวยผมพรามหณ์ขึ้นไปประดิษฐานบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พร้อมทั้งก่อพระมาลิกเจดีย์สำหรับประดิษฐานพระทันตธาตุเอาไว้

๏ ท้าวพญาทั้งนั้น ปรึกษาพร้อมกัน

โหรพราหมณ์มากมาย ดูเห็นเขี้ยวขวา ลับตาทั้งหลาย

พราหมณ์หยิบซ่อนไว้ ในบนเกษา

๏ บัดนั้นพระอินทร์ ท่านท้าวอัมรินทร์

ดูเห็นแก่ตา ว่าพราหมณ์นี้ไซร้ น้ำใจแข็งกล้า

ลักเอาเขี้ยวขวา พระซ่อนไว้พลัน

๏ จำกูนี้ไซร้ จะพาเอาไป

ไว้ในเมืองสวรรค์ ตริแล้วมิช้า อินทราชัดพลัน

โหรพราหมณ์ต้องปัน พระธาตุแจกไป

๏ ครั้นไปถึงแล้ว อินทราพระแก้ว

ก่อพระจุฬา มาลิกเจดีย์ ด้วยแก้วมุกดา

เป็นที่วันทา เทวาทั้งหลาย

ใส่ความเห็น