พระนางเหมชาลา และเจ้าชายทนธกุมารขึ้นฝั่งที่ลังกา ร่ำลากับเหล่าชาวเรือแล้วแจ้งว่าจะเข้าไปสืบหาญาติของตนในเมือง ครั้งเข้ามาในเมืองแล้ว ทั้งสองได้ไปเข้าเฝ้าพระสังฆราชซึ่งเป็นพระญาติของพระเจ้าทศคามมุนีกษัตริย์ลังกา แล้วแจ้งว่าพวกตนได้เดินทางมาจากนครทนทบุรีเพื่อสืบหาญาติ พระสังฆราชสั่งให้คนจัดเตรียมที่พักให้กับพระนางเหมชาลา และเจ้าชายทนธกุมารในพระอารามนั้น
๏ กล่าวถึงเจ้าสองศรี ถึงกุฎีด้วยเร็วไว
สองราวันทาไป ตรงหน้าไทยพระสังฆรา…
ตกกลางคืน พระนางเหมชาลานำพระทันตธาตุออกจากมุ่นพระเกศา ประดิษฐานไว้ทางหัวนอน เมื่อกระทำการสักการะบูชาแล้วก็หลับไป ในคืนนั้นพระทันตธาตุก็แสดงปาฎิหาริย์ เปล่งฉัพพรรณรังสีปรากฏออกมาให้พระสังฆราช และเหล่าสงฆ์ในพระอารามได้เห็นสว่างไสวไปทั้งพระอาราม ต่างพากันประหลาดใจ แต่ยังไม่ทราบความเป็นไปว่าเกิดเรื่องใดขึ้น
๏ เพลาในราตรี เจ้าสองศรีบรรทมใน
ทนต์ธาตุพระบาทไซร้ นางคลี่คลายจากเกศา
๏ เอาตั้งไว้เหนือเกล้า ทั้งสองเจ้าทำวันทา
วันนั้นทนต์ศาสดา ให้แจ้งตาคนทั้งหลาย
๏ มาถึงเมืองลังกา ธาตุศาสดาถึงทำนาย
หามีราคีไม่ ใครจะเบียนได้สองนงคราญ
๏ ฉัพพรรณรังสี มีรัศมีหกประการ
เหลืองแดงแสงชัชวาล เขียวขาวพานงามมีสี
๏ ช่วงโชติถึงโกลา ดาวดึงสาเห็นจะแจ้ง
พระอาทิตย์ฤทธิแรง รัศมีแข็งแรงนักหนา
๏ บ่เทียมแสงพระเจ้า รัศมีท้าวพ้นคณนา
พระสังฆราชา เถรเถรามาอัศจรรย์…
ยังมีเณรรูปหนึ่งสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ทราบความเป็นไปโดยทิพยญาณก็แจ้งแก่พระสังฆราช พระสังฆราชก็มีพุทธฎีกาให้หาพระนางเหมชาลา และเจ้าชายทนธกุมารเข้ามาซักถาม
พระนางเหมชาลา และเจ้าชายทนธกุมารเล่าความเป็นไปทั้งหมดให้พระสังฆราชทราบ แล้วพระสังฆราชจึงเอ่ยของพระทันตธาตุนั้น แต่พระนางเหมชาลา และเจ้าชายทนธกุมารไม่ยอมถวายให้ ด้วยตั้งใจจะถวายแก่พระเจ้าทุศคามมุนีกษัตริย์ลังกาด้วยตนเองในวันรุ่งขึ้น
๏ ครานั้นทนกุมาร นางนงคราญเหมชาลา
ทูลความตามสัจจา ข้าพเจ้าพาธาตุมุนี
๏ มาถวายเจ้าลังกา ตามบิดาสั่งข้านี้
อยู่กรุงทนทบุรี พระพันปีชีวาสัญ…