เจดีย์ปริศนาบนยอดเขานางเอ หลังสวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี : อิทธิพลของเจดีย์สกุลช่างสุพรรณบุรีในภาคใต้ ?

    หากท่านใดเป็นสายธรรมะ หรือเคยมาเมืองไชยา จ.สุราษฎร์ธานี น่าจะรู้จักชื่อพุทธทาส และสวนโมกขพลารามมาบ้าง สวนโมกขพลารามตั้งอยู่นอกเมืองไชยา ห่างออกมาราว 4 กิโลเมตร เป็นพุทธสถานที่ผสานกายอยู่ในสวนป่าใหญ่ มีภูเขา ลำธาร และต้นไม้ร่มรื่น เพื่อมุ่งหมายให้เกิดสภาวะอันสัปปายะเหมาะแก่การปฎิบัติธรรม

    กลางสวนโมกข์มีเขาธรรมชาติลูกเตี้ยชื่อ เขาพุทธทอง ถูกปรับลานบนยอดเขาให้เป็นโบถส์ธรรมชาติ เรื่องเล่าท้องถิ่นว่า เคยพบพระพุทธรูปทององค์เล็กบนยอดเขานี้ ยังมีเศษอิฐของสถูป หรืออาคารเก่าแก่กระจัดกระจายอยู่เล็กน้อย ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวผ่านมานี้ จะไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ผู้เขียนจะเล่าต่อไปครับ

    สวนโมกขพลารามอิงอยู่หน้าสันเขาลูกหนึ่ง เรียกว่าเขานางเอ บางส่วนของเขานางเอเรียกว่าเขาหัวช้าง และเขาสายสมอ ตำนานว่าพบสมอเรือสำเภา เทือกเขานางเอนี้ทอดตัวยาวอยู่หลังสวนโมขก์ จากจุดสูงสุดที่ราว 180 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เขานางเอลาดตัวลงมาทางฝั่งเขาสายสมอซึ่งใช้เป็นทางขึ้นโบราณไปยังยอดเขา

    ตลอดแนวสันเขานางเอนี้มีสถูปขนาดเล็ก เพิงผาธรรมชาติที่ถูกปรับเป็นวิหาร หรือกิจกรรมบางอย่างในสมัยโบราณ กระจายตัวเรียงรายขึ้นมาตามระดับ จนถึงระดับสูงสุดของสันเขา มีเจดีย์แปดเหลี่ยมหลังหนึ่ง และจุดชมวิว ซึ่งผู้มาปฎิบัติธรรมที่สวนโมกข์แบบค้างคืนน่าจะได้มีโอกาศขึ้นมา เจดีย์หลังนี้คือประเด็นที่คิดอย่างจะนำมาเสนอครับ เพื่อความได้อรรถรส ผู้เขียนเลยจะขอคัดเอาข้อความที่ได้โพสต์ไว้ในกลุ่มเล็ก ๆ มาลงโดยปรับแก้เล็กน้อยเพื่อความต่อเนื่องของเนื้อหาครับ (อันนี้กลัวเขียนใหม่แล้วเตลิด ไม่กระชับเท่าตอนเขียนทีแรก)

วิวเมืองไชยาจากบนเขานางเอ มองเห็นเขาน้ำร้อนอีกหนึ่งแห่ง สวนโมกข์นานาชาติ

สำรวจ และค้นหาความหมายที่ซุกซ่อนอยู่ในแมกไม้

    บนยอดเขานางเอ หลังสวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี มีซากเจดีย์อยู่หลังหนึ่ง มีลักษณะเป็นเจดีย์ฐานแปดเหลี่ยม ท้องไม้ยืดสูงซ้อนกันสองชั้น ก่อด้วยอิฐไม่สอปูน ผมเคยเห็นในรูปถ่ายเจดีย์หลังนี้มาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่มัธยมปลาย เพื่อนในแก๊งที่รู้จักกันก็ได้ขึ้นไปดูหลายรอบแล้ว แต่ผมก็ไม่มีโอกาศขึ้นไปดูซักทีจนกระทั่งหลายเดือนก่อน ได้ขอให้คุณนิติภูมิ ชื่นพิศาล ช่วยพาไปส่งที่สวนรุกขชาติเขาพุทธทอง หลังสวนโมกข์ซึ่งเป็นทางขึ้นทางหนึ่งที่นิยมใช้ในการขึ้นเขานางเอ

    (เส้นทางที่ขึ้นมาถึงยอดได้มีหลายทาง เส้นทางที่ใช้ในการขึ้นเขานางเอสมัยโบราณจริง ๆ น่าจะใช้เส้นทางเขาสายสมอ ซึ่งตลอดเส้นทางนั้นจะพบซากสถูปขนาดเล็ก กระจายตัวอยู่บนสันเขาไล่ระดับขึ้นมาเป็นระยะ ๆ และมีร่องรอยของการปรับชะง่อนผาธรรมชาติให้เป็นศาสนสถาน หรือพื้นที่ทางพิธีกรรม)

    ใช้เวลาอยู่ราว 25 นาทีจนถึงยอด ได้สำรวจรังวัดตัวเจดีย์แปดเหลี่ยม (ฐานมีขนาด 3.90 เมตร) และตัวไซต์รอบ ๆ เจดีย์ ซึ่งมีฐานของเจดีย์อีกหลังหนึ่งพังทลายจนไม่เหลือสภาพอยู่ข้าง ๆ และมีก้อนหินทรายแดงถูกขุดเป็นแอ่งเล็ก ๆ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 80 เซนติเมตร กระจายตัวอยู่ 3 จุด เมื่อเอาค่าตำแหน่งจาก GPS มาตรวจสอบดู จึงพบว่าไซต์ดังกล่าวอยู่ในตำแหน่งสูงที่สุดของแนวสันเขา (อาจคลาดเคลื่อนเล็กน้อย) ทำให้เห็นว่ามีการเลือกสรรที่ตั้งตัวโบราณสถาน และเจดีย์แปดเหลี่ยมหลังนี้ น่าจะเป็นเจดีย์ที่สำคัญที่สุดของเทือกเขานางเอ

สภาพเจดีย์แปดเหลี่ยม ผู้เขียนได้จัดทำแบบสามมิติบันทึกสภาพของเจดีย์หลังนี้ไว้ สามารถหมุนชมได้ที่ https://sketchfab.com/…/89853d94908c4c9bbab9e12d5ba74d0c สำหรับโทรศัพท์ที่สเป๊คไม่สูงอาจจะหน่วงเล็กน้อย และควรใช้ wifi เนื่องจากใช้ data เยอะครับ

จากซากปรักหักพัง สู่การสันนิษฐานรูปแบบ

    เดิมผมก็มองไม่ออกว่าเจดีย์นี้มันจะเป็นยังไงเมื่อสมบูรณ์ จนกระทั่งคุณพัชรพงศ์ กุลกาญจนาชีวิน ซึ่งกำลังทำรายงานเกี่ยวกับเจดีย์สกุลช่างสุพรรณเอาข้อมูลมาให้ดู เมื่อเทียบองค์ประกอบแล้วจึงทำให้เห็นว่าเจดีย์บนเขานางเอน่าจะมีความสัมพันธ์กับเจดีย์ฐานแปดเหลี่ยมในสุพรรณบุรี

    ทำไมต้องเป็นสุพรรณบุรี ในเมื่อเจดีย์ฐานแปดเหลี่ยมก็มีอยู่เป็นจำนวนมากในอยุธยา ประเด็นนี้สามารถสรุปได้เมื่อทำการเปรียบเทียบลักษณะของเจดีย์ฐานแปดเหลี่ยมที่พบในสุพรรณบุรี กับอยุธยา จะพบว่าแม้เจดีย์ฐานแปดเหลี่ยมในอยุธยาจะมีระเบียบทางสถาปัตยกรรมใกล้เคียงกับสุพรรณบุรี หากแต่มีสัดส่วนต่างกัน

    กล่าวคือ เจดีย์ฐานแปดเหลี่ยมในอยุธยาจะลดความสูงของท้องไม้ลงมาเตี้ยกว่าสุพรรณบุรี ฐานแปดเหลี่ยมชั้นที่ 2 จะยิ่งเตี้ยมาก ทั้งนี้เพื่อส่งให้องค์ระฆังมีขนาดใหญ่ขึ้น ขณะที่เจดีย์ฐานแปดเหลี่ยมในสุพรรณบุรีนั้นมีท้องไม้ยืดสูง มีเส้นกำกับทรงที่ค่อนข้างชัน และทรงชะลูดกว่าอยุธยามาก อาจกล่าวได้ว่าระเบียบสัดส่วนดังกล่าวเป็นลักษณะเด่นของเจดีย์ฐานแปดเหลี่ยมกลุ่มที่พบในสุพรรณบุรี ซึ่งลักษณะดังกล่าวสอดคล้องกับเจดีย์ฐานแปดเหลี่ยมบนยอดเขานางเอเป็นอย่างมาก

    การสันนิษฐานรูปแบบของเจดีย์ฐานแปดเหลี่ยมบนยอดเขานางเอ จึงใช้ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจรังวัด ประกอบกับการเปรียบเทียบองค์ประกอบจากเจดีย์ฐานแปดเหลี่ยมในสุพรรณบุรีเพื่อเติมส่วนที่พังทลายลงให้สมบูรณ์

ลักษณะการก่ออิฐเพื่อสร้างห้องประดิษฐานรูปเคารพขนาดเล็กภายในเจดีย์ สภาพเจดีย์แปดเหลี่ยม ผู้เขียนได้จัดทำแบบสามมิติบันทึกสภาพของเจดีย์หลังนี้ไว้ สามารถหมุนชมได้ที่ https://sketchfab.com/…/89853d94908c4c9bbab9e12d5ba74d0c สำหรับโทรศัพท์ที่สเป๊คไม่สูงอาจจะหน่วงเล็กน้อย และควรใช้ wifi เนื่องจากใช้ data เยอะครับ

ปริศนาที่จะต้องคลี่คลายต่อไป

    เหตุใด เจดีย์ฐานแปดเหลี่ยมแบบสุพรรณบุรีจึงปรากฏที่นี่เป็นประเด็นที่ผมก็ไม่รู้แน่ชัด แต่ก็มีข้อสังเกตว่า น่าจะต้องมีความสัมพันธ์กับการเกิดขึ้นของพระพุทธรูปหินทรายแดงสกุลช่างไชยา ที่ปรากฏกลีบบัวรองใต้พระรัศมี ซึ่งเป็นลักษณะที่พบมากในพระพุทธรูปหินทรายแดงในสุพรรณบุรีเช่นเดียวกัน

    ผมคิดว่าพระพุทธรูป และเจดีย์ดังกล่าวน่าจะถูกสร้างขึ้นภายใต้อิทธิพลทางการเมืองของราชวงศ์สุพรรณภูมิในช่วงต้นกรุงศรีอยุธยา อาจมีเจ้าเมืองเชื้อสายสุพรรณฯ ถูกส่งมาปกครองเมืองไชยาในยุคนี้ ซึ่งเป็นยุคที่หลักฐานลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับเมืองไชยายังมืดมน

    แม้ว่าจะขาดเอกสาร ทว่าจากการขุดค้นทางโบราณคดีที่วัดแก้ว วัดหลง กลับพบร่องรอยของกิจกรรมหลายประการในช่วงต้นกรุงศรีอยุธยา ที่อาจเป็นร่องรอยของการรื้อฟื้นเมืองไชยาขึ้นใหม่ ตลอดจนการบูรณะปฎิสังขรปราสาทอิฐในศาสนาพุทธมหายาน ให้เป็นวัดพระบรมธาตุไชยา รวมถึงจารึกวัดตะพานที่แม้ว่าจะยังไม่ทราบตำแหน่งที่พบชัดเจน (1) ซึ่ง ศ.ดร.ประเสริฐ ณ นคร ได้กำหนดอายุจารึกจากตัวอักษรให้อยู่ในช่วง พ.ศ. 1935 – 1970

    ประวัติศาสตร์ของเมืองไชยา หลังการเสื่อมลงของอาณาจักรโบราณที่อาจเคยถูกเรียกว่า ศรีวิชัย – ศรีโพธิ โดยเฉพาะในช่วงการฟื้นฟูขึ้นใหม่ และการรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรอยุธยา ยังเป็นสิ่งที่ได้รับการศึกษาน้อยมาก เจดีย์แปดเหลี่ยมบนยอดเขานางเอหลังนี้ อาจเป็นประจักษ์พยานสำคัญชิ้นหนึ่งของช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งควรจะได้รับการตรวจสอบ ค้นคว้าอย่างจริงจังมากขึ้นครับ

สภาพเจดีย์แปดเหลี่ยม ผู้เขียนได้จัดทำแบบสามมิติบันทึกสภาพของเจดีย์หลังนี้ไว้ สามารถหมุนชมได้ที่
https://sketchfab.com/…/89853d94908c4c9bbab9e12d5ba74d0c สำหรับโทรศัพท์ที่สเป๊คไม่สูงอาจจะหน่วงเล็กน้อย และควรใช้ wifi เนื่องจากใช้ data เยอะครับ

สภาพปัจจุบันของเจดีย์แปดเหลี่ยมบนเขานางเอในรูปแบบสามมิติ

https://sketchfab.com/…/89853d94908c4c9bbab9e12d5ba74d0c

เชิงอรรถ

(1) อ.ดร. วินัย พงษ์ศรีเพียร ได้ศึกษาจารึกวัดตะพาน และเสนอว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองท่าทอง – ดูรายงานวิจัย 100 เอกสารสำคัญของชาติ เอกสารลำดับที่ 71 จารึกวัดแวง จังหวัดสุราษฏร์ธานี : จารึก ภาษาเหนือ ในภาคใต้

การตรวจเชคระเบียบ และลักษณะทางสถาปัตยกรรมเจดีย์ฐานแปดเหลี่ยมในกรุงศรีอยุธยาใช้ข้อมูลจากงาน 2 ชิ้น ซึ่งเรคคอร์ดรูปแบบไว้ครบถ้วนมาก

การจัดการองค์ความรู้เรื่อง “รูปแบบเจดีย์ทรงระฆังสมัยอยุธยา” – กลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากร ที่ 3 พระนครศรีอยุธยา

การศึกษาวิวัฒนาการทางสถาปัตยกรรมของสถูปทรงกลม 2 แบบ (ทรงระฆังกลม และทรงระฆังกลมบนฐานชั้นบน 8 เหลี่ยม) ในเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา – จุฬิศพงศ์ จุฬารัตน์

การตรวจเชคระเบียบ และลักษณะทางสถาปัตยกรรมเจดีย์ฐานแปดเหลี่ยมในสุพรรณบุรีใช้ข้อมูลจาก

เอกสารประกอบการสัมนาวิชาการแสดงมุทิตาจิต รศ. เสนอ นิลเดช

ใส่ความเห็น