ภาพ – หอจดหมายเหตุแห่งชาติ
สองสามปีก่อนเคยมีหลายท่านปรารภอยู่เนือง ๆ ว่าการย้ายปฎิมากรรมรูปพระธนทกุมาร พระนางเหมชาลาพร้อมเรือสำเภาจากริมกำแพงพระด้านหน้าลานโพธิ์ ไปไว้ข้างวิหารหลวงเป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะคุ้นชินกับการมาพระธาตุแล้วได้ไหว้รูปท่านทั้งสองตรงนั้น เดี๋ยวนี้ได้ยินคนพูดน้อยลง จนน่าจะลืม ๆ กันไปมากแล้ว คนที่รู้แล้วเข้าไปไหว้รูปที่ย้ายไปข้างวิหารหลวงก็ยังมีบ้างแต่คนที่ไม่รู้ว่าย้ายไปตรงนั้นก็ยังมีอยู่มาก
ที่จริงในประวัติศาสตร์อันยาวนานของพระบรมธาตุ รูปประติมากรรมบุคคลทั้ง ๒ นั้นเป็นของใหม่มากมีมาไม่กี่สิบปีเท่านั้น (แต่การย้ายรูปประติมากรรมไปไว้ตรงนั้น มองบางแง่ก็น่าเสียดายที่ความทรงจำของคนกับพระธาตุในเรื่องนี้ถูกตัดตอนไป) แต่ก็ใช่ว่าชาวนครศรีธรรมราชหรือคนใต้ในอดีต จะไม่มีสิ่งที่กำหนดเป็นอนุสรณ์ถึงบุคคลในตำนานผู้นำพระทันตธาตุ และพระบรมสารีริกธาตุมายังหาดทรายแก้ว เพราะมีการประสาทนามให้กับพระทรงเครื่องยืนที่หน้ามุขพระธรรมศาลาว่า พระทนธกุมาร และพระทรงเครื่องยืนที่ท้ายจรนำวิหารธรรมศาลาว่า พระนางเหมชาลา ครูบาอาจารย์รุ่นเก่าอธิบายว่า ให้มองพระธรรมศาลาเหมือนสำเภานาวาที่พระทั้งสองนำพระบรมธาตุมา และเป็นสำเภานาวาไปสู่การหลุดพ้น
ชื่อพระทนธกุมาร พระนางเหมชาลา ที่กำหนดให้เป็นพระยืนมุขหน้า กับท้ายจรนำพระธรรมศาลานี้ จะได้กำหนดขึ้นเมื่อไหร่ผมยังค้นไม่ได้แต่ที่ค้นได้เป็นหลักฐานรุ่นร้อยปีเศษ ๆ หลักฐานสมัยอยุธยา หรือในตำนานพระธาตุสำนวนต่าง ๆ ไม่มีกล่าวถึงเลย เมื่อสมเด็จพระปิตุลาเสด็จเมืองนครในปี ๒๔๒๗ กล่าวถึงพระยืนที่พระธรรมศาลาแต่ยังไม่จดชื่อเอาไว้ คงกล่าวแค่ว่าเป็นพระยืนสูง ๕ วา
ในจดหมายระยะทางไปตรวจราชการแหลมมลายู ๒๔๔๕ ของกรมพระยานริศก็ยังไม่มีชื่อพระยืนทั้งสอง สมเด็จครูท่านละเอียด ถ้าพระมีชื่ออยู่ไม่น่าพลาดจดครับ หลักฐานแรกที่กล่าวถึงชื่อพระทั้ง ๒ พบอยู่ในจดหมายเหตุประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ ของเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ ๒๔๕๒ กล่าวว่า
…ที่มุขหน้ามีพระพุทธรูปห้ามสมุทรทรงเครื่องต้น ซึ่่งสมมติเรียกกันว่า #พระธนกุมาร ที่มุขหลังมีพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งเรียกว่า #นางเหมตลา ท่านทั้ง ๒ นี้ มีนามปรากฏอยู่ในตำนานของเมืองนี้
พระนางเหมชาลาที่ท้ายจรนำพระธรรมศาลานั้น ตามข้อวินิจฉัยของคุณดิเรก พรตตะเสน ท่านเชื่อว่าเรียกว่า “พระเมก” โดยเรียกท้ายจรนำพระธรรมศาลาว่าวิหารพระเมก มีลายแทงกำกับอยู่กับวิหารด้วย ในเอกสารกัลปนาที่ดินให้กับวัดพระบรมธาตุสมัยอยุธยา ปรากฏรายการที่ดินที่อุทิศให้ “พระเตมกทอง” หลายแปลง ซึ่งสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงทำฟุ๊ตโน๊ตเอาไว้ว่าพระเตมกทอง คือพระยืนใหญ่ในวิหารพระทรงม้า ทำให้ยังเป็นข้อขัดกันอยู่ว่าพระเมกคือพระยืนองค์ไหนแน่ ระหว่างพระยืนที่เรียกกันว่า พระนางเหมชาลาเดี๋ยวนี้ กับพระยืนในพระทรงม้า
ชื่อ เมก หรือ เตมก ไม่มีคำแปลตรงตัว แต่เป็นแสลง ใช้ว่า ในเหมก อยู่ในเมก คืออยูุ่ลึก อยู่ในที่ไกลปืนเที่ยง อย่างที่ไชยาใช้ว่า ในหมง ในหม็อง พระตเมกทอง จะแปลว่าอะไรก็ยังคงเป็นปริศนาอยู่ ที่จริงมีต้นไม้ชื่อต้นเตมกด้วย พระเตมกทองจะหมายถึงพระที่แกนเป็นไม้เตมกได้ไหม เพราะพระปูนปั้นใหญ่ต้องมีแกนเป็นซุงใหญ่มากอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้คงยังไม่มีวิธีที่จะพิสูจน์ได้
ขึ้นภาพพระทนธกุมาร แต่ไปพูดเรื่องพระนางเหมชาลาเกือบหมด พระทนธกุมารซึ่งเป็นพระยืนสูง ๕ วา หรือวัดจริงได้ ๘.๔ เมตรนี้ เป็นพระทรงเครื่องที่มีกระบวนเครื่องทรงน่าชม มีจิตวิญญาณของเมืองนครสูงมาก
เรื่องการประสาทนามพระทนธกุมาร พระนางเหมชาลานี้เลยยังสรุปไม่ได้แน่ แต่กรอบเวลาที่ชื่อถูกประสาทให้พระน่าจะอยู่ในช่วงนี้นะครับหลัง ๒๔๔๕ – ๒๔๕๒ หรือที่จริงมีมานานกว่านั้นแต่ไม่ได้ถูกจดเรื่องนี้ก็ยังบอกได้ยากครับ
ตามความคิดของผม การกำหนดรูปพระให้เป็นเครื่องระลึกถึงบุคคลนั้นเป็นคติที่ดีและแยบยลกว่าประติมากรรมรูปบุคคลแบบเสมือนจริงมาก เฉพาะวัฒนธรรมปักษ์ใต้เราไม่ต้องพูดถึงภาคอื่นก็มีกรณีตัวอย่างมากมาย เช่นรูปพระมารวิชัยทรงเครื่องที่เชื่อกันว่าเป็นรูปแทนของพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชผู้สร้างพระธาตุ ซึ่งเดิมอยู่ในวิหารโพธิลังกา ต่อมาพระยาสุขุมนัยวินิตให้ย้ายมาไว้ในวิหารสามจอม
พระลากอุทิศแทนตัวต่าง ๆ รูปแม่เจ้าอยู่หัวที่ท่าคุระ และบรรดาพระพุทธรูปที่นางเลือดขาวสร้างซึ่งกลายเป็นที่ระลึกถึงบุญกิริยาของพระนางในอดีต ยุคหลังนี้คนติดการกราบไหว้รูปเคารพที่ทำให้เหมือนบุคคลจริง ๆ บางทีเอาหน้าของคนออกทุนสร้างมาใส่เป็นหน้าบุคคลในตำนานก็มี ยิ่งถ้าเป็นรูปบุคคลสำคัญมาก ๆ พอรู้แล้วเราก็ไหว้ไม่สนิทใจ เหมือนผู้สร้างยกตัวเองเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ในอดีตกลับมาเกิด บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการพระศาสนาในอดีต เมื่อจะทำรูปแทนตัวท่านจึงทำให้เป็นนามธรรม เป็นรูปพระไปเสีย ก็กลายเป็นทิพย์ไหว้แล้วก็เป็นมงคลกับตัว ไม่ยึดติดอยู่กับใบหน้าของมนุษย์ที่ยังมีกิเลศ เป็นกุศโลบายทางธรรมที่ดีที่น่าจะใคร่ครวญถึงครับ
ภาพ – หอจดหมายเหตุแห่งชาติ
เผยแพร่ครั้งเเรกใน - https://www.facebook.com/media/set/?vanity=100081258420936&set=a.116931534358794