
ในพิธีทำบุญให้แก่ผู้ล่วงลับ หรือที่ชาวมุสลิมท้องถิ่นเรียกว่า “นูหรีคนตาย” จะทำบุญ 3 ติดต่อกัน วันที่ 7 วันที่ 40 วันที่ 100 (วันครบรอบการตาย)ณ บ้านควน ตำบลคูเต่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากอาหารคาวแล้ว สำรับขนมหวานที่ญาติมิตรและเพื่อนบ้านนำมาร่วมทำบุญนั้น ล้วนสะท้อนถึงความผูกพันและวัฒนธรรมอาหารที่สืบทอดกันมา และหนึ่งในขนมที่โดดเด่นและมีเรื่องราวน่าสนใจก็คือ “หนุมค่อม” หรือ “ขนมค่อม”

ขนมค่อมที่บ้านควนมีความพิเศษตรงที่เป็นขนมนึ่งที่มีถึงสามรูปแบบสามชื่อเรียก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายในการใช้แป้งและภูมิปัญญาในการแปรรูปวัตถุดิบเดียวกันให้กลายเป็นขนมที่มีความร่วมในความต่าง
1. ขนมค่อมแป้งเหนียว (ข้าวเหนียว)
นี่คือขนมค่อมที่ใช้ แป้งข้าวเหนียว เป็นส่วนประกอบหลักในการห่อไส้ทำจากมะพร้าวทึนทึกผัดกับน้ำตาลหรือถั่วเขียวผัดกับน้ำตาล ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ “ขนมเทียน” ของคนภาคกลาง แต่สำหรับชาวบ้านควน ขนมเทียนยังหมายถึงขนมอีกแบบที่ทำจากแป้งข้าวเหนียวผสมมะพร้าวทึนทึกและน้ำตาล ห่อเป็นรูปสี่เหลี่ยม
สิ่งที่น่าทึ่งคือขนมค่อมแป้งข้าวเหนียวนี้สามารถแปรเปลี่ยนกายเป็นขนมได้อีกสองชนิด เพียงแค่เปลี่ยนวิธีการให้ความร้อน เปลี่ยนจากนึ่งเป็นต้ม หากนำแป้งและไส้แบบเดียวกันนี้ไป ต้มในน้ำกะทิ จะถูกเรียกว่า “ขนมหัวล้าน” และเปลี่ยนจากนึ่งเป็นทอด หากนำไป ทอด จะได้ชื่อใหม่ว่า “ขนมมด” หรือที่บางหมู่บ้านเรียกว่า “ขนมไข่มด” ความรู้ท้องถิ่นนี้แสดงให้เห็นถึงความชาญฉลาดในการใช้แป้งและไส้แบบเดียวกัน แต่สร้างสรรค์ขนมได้ถึงสามประเภทตามกรรมวิธี ทำให้วัตถุดิบไม่สูญเปล่า และมีเมนูที่หลากหลายในการรับประทาน

2. ขนมค่อมแป้งเจ้า (ข้าวเจ้า)
ขนมชนิดนี้มีความซับซ้อนขึ้นอีกเล็กน้อย โดยยังคงใช้ แป้งข้าวเหนียว เป็นตัวห่อไส้ แต่จะ ราดทับด้วยแป้งข้าวเจ้าที่กวนกับกะทิ อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับที่คนภาคกลางเรียกว่า “ขนมใส่ไส้” (หรือขนมสอดไส้)
ผู้เฒ่าผู้แก่ยังเล่าว่า หากใครไม่ต้องการห่อทีละชิ้นให้เสียเวลา ก็สามารถห่อแบบยาวแล้วใส่ไส้ถึงสองลูกสามลูกในห่อเดียวก็ได้ ซึ่งแสดงถึงความหลากหลายในการทำขนมแบบพื้นบ้าน

3. ขนมค่อมสาคู
ขนมค่อมอีกชนิดหนึ่งคือ “ขนมค่อมสาคู” ซึ่งใช้ สาคูที่ทำจากมันสำปะหลังเป็นสินค้าสำเร็จรูปที่หาซื้อได้จากร้านชำในหมู่บ้าน ซึ่งซื้อมาจากในตลาดอีกทีหนึ่ง เป็นวัตถุดิบที่ผลิตในโรงงาน เป็นส่วนห่อหุ้มไส้ อย่างไรก็ตาม ญาติผู้ใหญ่ (โต๊ะดะ) ได้เล่าถึงความดั้งเดิมว่า ในอดีตนั้น ขนมค่อมสาคูแท้จริงแล้วจะใช้ แป้งสาคู (จริง) ที่ได้จาก ต้นสาคู ซึ่งเคยมีอยู่มากมายในหมู่บ้านเมื่อครั้งที่ท่านยังเยาว์วัย แต่ในปัจจุบัน ต้นสาคูในหมู่บ้านได้หมดไปแล้ว จึงต้องเปลี่ยนมาใช้สาคูจากมันสำปะหลังแทน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศและการปรับตัวด้านอาหารตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป และวัตถุดิบใหม่ๆ ที่เข้ามาแทนที่ของดั้งเดิมที่เคยผลิตได้เองในหมู่บ้าน

ไส้ตรงกลาง ความอร่อยที่รวมเป็นหนึ่ง
แม้จะมีแป้งถึงสามชนิด แต่ขนมค่อมทั้งสามแบบนี้กลับมี ไส้ ที่ใช้ร่วมกัน คือทำจาก ถั่วเขียว หรือมะพร้าวทึนทึก นำมาผัดกับน้ำตาล รสชาติหวานมันเค็มที่ลงตัวนี้เอง คือหัวใจหลักที่เชื่อมโยงความอร่อยของขนมค่อมหลากหลายรูปแบบเอาไว้ด้วยกัน
“หนุมค่อม” จึงเป็นมากกว่าขนม แต่คือสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ ภูมิปัญญาในการแปรรูปวัตถุดิบ และสายใยแห่งการแบ่งปันในชุมชนมุสลิมบ้านควนที่ยังคงถูกส่งต่อผ่านความหวานมันของขนมที่บรรจงนึ่งและนำมาร่วมในงานบุญเพื่อใช้เลี้ยง ในผู้มาร่วมงานได้รับประทานกัน