ฉากที่ ๘ พระมหาเถรพรหมเทพหยุดพายุ

    ออกเรือต่อมาได้สามวัน ท้าวนาคาทราบว่าพระนางเหมชาลา และเจ้าชายทนธกุมารกำลังนำพระทันตธาตุออกจากหาดทรายแก้วไปยังลังกาโดยเรือกำปั่นวาณิชย์ ก็คิดขัดขวางหมายจะอัญเชิญพระทันตธาตุกลับลงไปนาคพิภพจึงบันดาลให้เกิดพายุใหญ่ เรือติดอยู่ท่ามกลางพายุนั้น ฝ่ายชาวเรือเห็นเป็นเหตุอาเพศผิดประหลาด คิดว่าพระนางเหมชาลา และเจ้าชายทนธกุมารนำความอัปมงคลมาสู่การเดินทางก็ตั้งใจจะจับทั้งสองทิ้งลงน้ำ

๏ แล้วใช้นาวาชัย สามวันไปมิได้ช้า นาคีมีฤทธา

เลียบตามมาเห็นแจ้งใจ

๏ ว่าทนต์พระบรมธาตุ นางพาคลาดแต่หาดใหญ่

จำกูจะตามไป เป็นพายุใหญ่ให้จมลง

๏ กูจักได้พระธาตุ มุนีนาถตามจำนง

บัดเดี๋ยวดังใจจง ตามจำนงท้าวนาคา

๏ ตั้งพายุเป็นหมอกควัน จึงเร็วพลันถึงเภตรา

คลื่นใหญ่ซัดไปมา กำปั่นพาทนไม่ไหว

๏ ไท่ก๋งและต้นหน ลางคนบนหมูเป็ดไก่

เราเที่ยวมาแต่ไร ไม่เหมือนไซร้ครั้งนี้หนา

๏ มิเคยต้องลมร้าย เภตราให้สองคนมา

อุบาทว์ชาติหลากา ทิ้งคาคาพาไปไย

๏ ได้ยินเหมชาลา ตกกรรมาไม่มีใจ

อนิจจาตัวข้าไซร้ มรณาลัยครั้งนี้หา

๏ ยกมือขึ้นเหนือเกล้า ขอท่านท้าวพระเถรา

พรหมเทพพระเจ้าข้า ได้เมตตาช่วยข้าพลัน…

    พระนางเหมชาลา และเจ้าชายทนธกุมารอธิษฐานจึงถึงมหาเถรพรหมเทพ ครั้นท่านทราบเรื่องโดยทิพยญาณก็นิรมิตรตนเป็นพญาครุฑบินเข้ามาขับไล่พวกนาค และปัดเป่าพายุออกไป

๏ พระเถราก็ผาดผุด แปลงเป็นครุฑท้าวเมรา

บินร่อนจรใกล้มา ท้าวนาคามาตกใจ

๏ คร้าวกลัวตัวไหวหวั่น คืนไปพลันยังกรุงไกร

พระเถราจึงลงไป เข้านั่งใน้ท้ายบาหลี…

ใส่ความเห็น