ข้าวเย็นกินน้ำผึ้งเหลว : อาหารแต่แรกของ “คนแขกสงขลาบ้านควน” ที่ปลายน้ำคลองอู่ตะเภา

เมื่อพูดถึงบ้านควนภาพของทะเลสาบสงขลา(เลใน) สายน้ำคลองอู่ตะเภา และวิถีชีวิตดั้งเดิมยังคงเด่นชัดในความทรงจำ โดยเฉพาะอาหารแต่แรกที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยเรื่องเล่า เช่นเดียวกับเมนูที่เรียกว่า “ข้าวเย็นกินน้ำผึ้งเหลว” ซึ่งเคยเป็นอาหารเช้าที่คุ้นเคยของ คนแขกสงขลาบ้านควน บริเวณปลายคลองอู่ตะเภา ที่ปัจจุบันเริ่มเลือนหายไป

วัตถุดิบหลักจาก “ต้นโหนด” แห่งคาบสมุทรสทิงพระ

การเดินทางไปตลาดนัดท่าเสาบ้านใหม่ บนคาบสมุทร สทิงพระ เมื่อสองวันก่อน ทำให้ผู้เขียนได้ย้อนนึกถึงอาหารจานนี้ ที่นั่นเป็นพื้นที่ที่อุดมไปด้วย ต้นตาลโหนด หรือที่ชาวสงขลาเรียกว่า “ต้นโหนด” ซึ่งเป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบสำคัญอย่าง น้ำผึ้งเหลว น้ำผึ้งแว่น ฯลฯ (น้ำผึ้งคำที่คนสงขลาใช้เรียกน้ำตาลที่มีรสหวานทุกชนิดและขยายชื่อตามลักษณะของน้าตาลนั้นๆ) ผู้เขียนได้อุดหนุน “น้ำผึ้งเหลว” ราคา 60 บาทจากร้านของ”พี่นา” คนแขกท่าเสา ซึ่งเป็นครอบครัวสุดท้ายที่ยังคงยึดอาชีพขายผลิตภัณฑ์จากต้นโหนด(ต้นตาล)โดยมีลูกเขยทำหน้าที่ปีนขึ้นไปเก็บ น้ำตาลสด มาทำเป็นน้ำส้มโหนด น้ำผึ้งเหลว ฯลฯ อันเป็นเอกลักษณ์

ความเรียบง่ายที่อิ่มท้อง : ข้าวเย็นกินน้ำผึ้งเหลว

เมื่อกลับมาถึง บ้านควน ตำบลคูเต่า อำเภอหาดใหญ่ (คนละฝั่งทะเลกับท่าเสา แต่สามารถมองเห็นกันได้จากริมทะเล) การได้เห็นน้ำผึ้งเหลวก็ทำให้ผู้เขียนนึกถึงอาหารเช้าในวัยเด็ก คือ ข้าวเย็นกินน้ำผึ้งเหลว เมนูนี้มีวิธีการทำที่ง่ายอย่างเหลือเชื่อ ตักข้าวเย็น (ข้าวที่หุงเหลือจากมื้อเย็นเมื่อวาน ซึ่งคนแขกสงขลาบ้านควนเรียกว่า ‘ข้าวเย็น’ เช่นกัน) ใส่จาน ราดน้ำผึ้งเหลวลงไป คนให้เข้ากัน แล้วรับประทานได้ทันที เป็นอาหารที่ทำได้อย่างเรียบง่าย แต่สามารถทำให้อิ่มท้องพร้อมออกไปทำงานได้ทันที หากเป็นสมัยก่อน ผู้ใหญ่ที่ทำให้ลูกหลานกิน มักจะเสียเวลาเล็กน้อย ปั้นข้าวผสมน้ำผึ้งเหลวให้เป็นลูกกลมๆ เพื่อดึงดูดความสนใจให้เด็กๆ อยากอาหารมากขึ้น หากเป็นลูกหลานที่อายุ1ขวบจะสับข้าวด้วยช้อนให้เล็กที่สุด เมนูนี้จึงเป็นอาหารเบิกโรงก่อนที่จะมีการหุงหาอาหารหรือทำกับข้าวอย่างจริงจัง

อาหารที่เลือนหายตามกาลเวลา

ข้าวเย็นกินน้ำผึ้งเหลว ถือเป็นอาหารโบราณที่คนแขกสงขลาบ้านควนในยุคปัจจุบันอาจจะไม่รู้จักแล้ว ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะในยุคนี้ ตื่นเช้ามามีอาหารพร้อมขายมากมายในหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นข้าวหมก ข้าวมัน เหนียวไก่ หรือเหนียวปลาแห้ง ที่อำนวยความสะดวกแค่ใช้เงินก็อิ่มท้อง อีกปัจจัยสำคัญคือ วัตถุดิบหลัก อย่าง น้ำผึ้งเหลว หาได้ยากในแถบนี้ (แม้จะมีคนนำมาขายบ้างที่ตลาดนัดวัดคูเต่า) รวมถึงความนิยมที่หันไปใช้น้ำตาลทรายเป็นหลัก

จากความทรงจำของ “วะ”(พี่ชายของมะ) ท่านหนึ่งที่ปัจจุบันอายุ 66 ปี เล่าว่า สมัยก่อนที่บ้านควนเองก็เคยมีครอบครัวที่ยึดอาชีพ ขึ้นตาลขึ้นโหนด เช่นเดียวกับที่ท่าเสา(แถบคาบสมุทรสทิงพระ)แม้ว่าในปัจจุบันอาชีพนี้จะหายไปจากหมู่บ้านแล้ว แต่ก็ยังเหลือต้นโหนด ที่ขึ้นอยู่บนคันนาท้ายหมู่บ้าน เป็นเสมือนหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ยืนยันการมีอยู่ของวิถีชีวิตในอดีต เมื่อวัตถุดิบหายาก ความนิยมลดลง อาหารบางอย่างก็ย่อมเลือนหายไปจากสำรับ ทำให้ข้าวเย็นกินน้ำผึ้งเหลวกลายเป็น “ของกินที่ยากจะเข้าถึงคนรุ่นใหม่” ไปแล้วผู้เขียนจึงได้ลองทำและชิม ข้าวเย็นกินน้ำผึ้งเหลวทำจากตาลโหนด ในวันนี้(17 ตุลาคม 2568) รสชาติที่ได้นั้น กินได้ไม่ต่างจากการกินขนมหวาน เป็นการย้อนรอยความทรงจำและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของคนแต่แรกอย่างแท้จริง

เผยแพร่ครั้งแรกใน – https://www.facebook.com/share/p/1BTGQHhGbH/

สามารถ สาเร็ม

คนแขกลุ่มทะเลสาบ ที่ชอบตามหาของแปลก ๆ ตามตลาดนัด

ใส่ความเห็น