
“ข้าวคั่วพร้าว” ฟังดูเป็นชื่อที่เรียบง่าย แต่กลับบรรจุเรื่องราว ความผูกพัน และรสชาติแห่งความทรงจำไว้ เป็นยิ่งกว่าอาหาร มันคือบันทึกความทรงจำของชีวิตวัยเด็ก ที่หวนกลับคืนมามีชีวิตอีกครั้งผ่านปลายตะหลิ่ว(เจี่ยนฉี่)และกลิ่นหอมกรุ่นในกระท
กำเนิดจากความเรียบง่าย : ข้าวเย็นที่แปลงกาย
อาหารจานนี้เกิดขึ้นจากภูมิปัญญาในการจัดการกับ “ข้าวเย็น” ที่เหลือจากมื้อค่ำวาน แทนที่จะปล่อยให้เป็นของเหลือทิ้ง ก็ถูกนำมาแปลงโฉมให้กลายเป็นอาหารมื้อใหม่ที่แสนอร่อยและมีเอกลักษณ์ วัตถุดิบหลักคือ “ข้าวเย็น” กับ “มะพร้าวขูด” ซึ่งสามารถใช้มะพร้าวแก่หรือมะพร้าวทึนทึกที่ขูดเป็นกากก็ได้ เป็นวัตถุดิบที่หาได้ง่ายเพราะปลูกต้นมะพร้าวไว้รอบๆ บ้าน
คุณยายบูรณ์ (คุณสมบูรณ์ เรืองขนาบ) สตรีสูงอายุที่เกิดและเติบโตมาที่บ้านขนาบนาก ตำบลขนาบนาก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้บอกเล่าความทรงจำนี้ไว้ ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรักและความคิดถึง “เป็นอาหารอันเรียบง่ายจากข้าวเย็นที่เหลือจากเมื่อค่ำวาน นำมาผัดกับมะพร้าวขูด… ผัดให้สุกหอม ทั้งข้าวเย็นและมะพร้าวผสมกัน…”

รสชาติแห่งความหลับที่บ้านขนาบนาก
“ข้าวคั่วพร้าว” เป็นอาหารที่รำลึกถึงคุณแม่และญาติผู้ใหญ่ในวัยเด็ก ที่มักจะทำอาหารชนิดนี้ให้ลูกหลานได้กินกัน ภาพของลูกหลานในวัยเดียวกันนั่งล้อมวงตักข้าวคั่วพร้าวใส่จานกินกันอย่างสนุกสนาน เป็นภาพที่เปี่ยมไปด้วยความสุขและความอบอุ่น เป็นอาหารที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตที่ผูกพันกับธรรมชาติ เพราะมะพร้าวที่นำมาใช้ก็คือผลผลิตที่ปลูกไว้รอบบ้าน ไม่ต้องเสียเงินทองซื้อหา การปรุงนั้นแสนจะง่ายดาย แต่ต้องใช้ความใส่ใจ เพียงนำ”ข้าวเย็น” กับมะพร้าวขูดใส่ในกระทะพร้อมกัน แล้วคั่วไปเรื่อยๆ ด้วยไฟอ่อนๆ ใช้เวลาสักพักเพื่อให้มะพร้าวสุกหอม ผสมผสานกับข้าวได้อย่างลงตัว กลิ่นหอมที่อบอวลคือกลิ่นของมะพร้าวคั่วเคล้ากับกลิ่นไหม้จางๆ ของข้าวที่ถูกความร้อน



การเติมเต็มรสชาติและชีวิต
เสน่ห์ของ “ข้าวคั่วพร้าว” อยู่ที่การกินคู่กับเครื่องเคียงที่เพิ่มมิติให้กับรสชาติหลัก คุณยายบูรณ์เล่าว่านิยมกินคู่กับ น้ำตาลแว่น ที่ทำมาจากน้ำตาลโตนด ซึ่งเป็นความหวานจากธรรมชาติ หรือจะกินกับไข่เจียวก็ได้รสชาติที่อร่อยไปอีกแบบ เมื่อมีจังหวะให้นำสูตรของคุณยายบูรณ์มาลองทำกินดู
ผู้เขียนได้พบกับรสชาติที่น่าอัศจรรย์ ความมันจากมะพร้าวผสมกับข้าว ได้รสหวานจากน้ำตาลโตนดแว่น ทำให้รสชาติแปลกลิ้นคล้ายกำลังกินขนมหวาน เป็นความอร่อยที่มาพร้อมกับความทรงจำที่ได้ฟังจากคุณยายบูรณ์


คุณค่าเหนือกาลเวลา
ในยุคปัจจุบัน “ข้าวคั่วพร้าว” อาจเป็นอาหารที่น้อยคนจะรู้จัก และแทบไม่มีคนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสลิ้มลอง แต่ความทรงจำและวิธีการทำที่คุณยายบูรณ์ได้บอกเล่าในวันนั้น ได้ถูกจดบันทึกไว้อย่างละเอียด และเมื่อถูกนำมาปรุงขึ้นใหม่ มันได้ทำหน้าที่เป็นมากกว่าแค่จานอาหาร แต่มันคือตัวแทนความทรงจำต่อบุคคลอันเป็นที่รัก เป็นจานอาหารที่ทำง่ายๆ แต่เปี่ยมด้วยคุณค่า แก้ปัญหาเรื่องข้าวเหลือได้อย่างรู้ค่า และเป็นเครื่องย้ำเตือนว่า… อาหารที่เรียบง่ายที่สุด มักจะเป็นอาหารที่ให้รสชาติของความสุขและความทรงจำที่ลึกซึ้งที่สุดเสมอ