
คัดจากบุดเรื่องท่านปานซ่อมพระธาตุ สำนวนนี้แต่งโดยกวีนิรนามคนหนึ่ง ให้รายละเอียดการซ่อมครั้งนั้นในบางแง่มุมซึ่งช่วยเสริมกันกับสำนวนของท่านปลัดเลี่ยมได้ แต่สภาพไม่ค่อยสมบูรณ์ต้นฉบับขาดหายไปกว่าครึ่ง สันนิษฐานว่าเรื่องนี้ยังไม่เคยมีการปริวรรตเผยแพร่มาก่อนในที่ใดเลย และอาจมีเหลืออยู่เพียงฉบับเดียวนี้ วรรณกรรมเรื่องนี้แต่งด้วยฉันทลักษณ์แบบราบนคร ไม่ค่อยเคร่งครัดบท เคร่งครัดบาทเท่าไหร่ ผมจัดใหม่มาแบบงง ๆ ก็มีผิดอยู่บ้าง ส่วนที่ยกมานี้กล่าวถึงนายช่างสองคน ชื่ออะไรบอกเลือน ๆ คนหนึ่ง กับชื่อเทพนรินทร์ ซึ่งคงเป็นข้าราชการเมืองนครที่ขุนเทพนรินทร์ เป็นเจ้าพนักงานสังกัดกรมมหาดไทยซ้าย นั่งทำราชการ ณ ศาลาหลวงที่หน้าวังเจ้าเมืองนคร
ราบนี้ว่า ทั้งสองเป็นนายช่างนวกรรม ทำตัวไม้ตั้งแต่โครงสร้างจนถึงลำยองประดับตกแต่ง แต่ผู้แต่งให้รายละเอียดสับสนกันโดยเอาการซ่อมหลังคาวิหารหลวงมารวมกันกับการซ่อมวิหารธรรมศาลา ซึ่งเรารู้ว่าการซ่อมหลังคาวิหารหลวงนั้นกระทำทีหลังจากท่านปานวางมือจากการซ่อมพระบรมธาตุแล้ว แต่กลับให้รายละเอียดของโครงสร้างและการตกแต่งวิหารหลวงอย่างถูกต้อง ตอนท้ายเอามาปนเข้ากับหน้าบันวิหารธรรมศาลาที่ท่านปานคุมซ่อมเองแล้วทำจารึกเอาไว้ แสดงว่าท่านผู้แต่งคงได้รู้เห็นการซ่อมทั้งสองคราวอย่างใกล้ชิดทีเดียว แล้วคงแต่งหลังจากยุคท่านปานซ่อมพระบรมธาตุมาแล้วพักหนึ่งจากความทรงจำที่ไม่ชัดเจนนัก
อย่างไรก็ตามก็มีความน่าสนใจมาก เพราะเป็นตัวอย่างการพรรณาลักษณะทางศิลปสถาปัตยกรรมด้วยสำนวนแบบนครเอง ซึ่งก็อ่านดูเหมือนสำนวนกลอนโนราอยู่บ้าง ลองอ่านกันดูครับ ใครใจดีจะลองจดบทจัดบาทใหม่ดูก็ได้ครับ



๐ บทหนึ่งดูไว้
จักกล่าวเล่าให้ คนในพารา
ตั้งอยู่เป็นนิตย์ ไม่คิดไรหนา
พวกหนึ่งกลับไป พวกหนึ่งยกมา
อยู่ไม่ได้เนื่อง เป็นนิตย์อัตรา
ฝ่ายข้างนายช่าง มิได้ร้างรา
ทำอยู่อัตรา ได้ดั่งใจหมาย
.
จำหนงหนึ่งนาย แยบคายถ้วนถี่
ทำได้ทุกอย่าง ต่าง ๆ มากมี
น้ำใจยินดี ตั้งต่อกูศล
.
หนึ่งเล่าเทพหรินทร์ เข้ากันสองคน
ตั้งต่อกูศล ในพระศาสนา
ตั้งใจแทนคุณ เป็นคนศรัทธา
ได้ช่วยเกื้อหนุน เกื้อกูลกรุณา
ไม่เสียทีมา เกิดในชมพู
.
ได้สร้างกูศล
เป็นพลับเป็นผล ครั้งนี้เกิดมา
ไม่เสียทีชาติ อำนาจกุศลา
ตั้งจิตนานช้า ได้มาพบเห็น
ชีต้นอาจารย์ ด้วยทำการเป็น
จึงมอบการให้ สองคนพอได้
.
ปรึกษากันทำ
ปล้ำอยู่ยังค่ำ ฝ่ายทำการไม้
ไม่มีใครสู้ ทำอื่นไม่ได้
ฝ่ายแกขุดไม้ ไม่ได้นิ่งอยู่
ทำเป็นรูปไหร ไม่มีตัวสู้
ได้ช่วยเกื้อชู คุณปานดังใจ
.
มอบให้จำหนง เสร็จการเราไซร้
เราได้หยันได้ สองหายเทพหรินทร์
สองนายได้ยิน รับสั่งคำไท
บรรดาตัวไม้ ใช่ฝีมือใคร
.
กระหนกแม่ลาย
ไม่ว่าหลังไหน ดอกดวงแยบยล
เป็นกลชั้นใน แลดูแยบไป
นอกในดูเด่น สมต้นสมปลาย
ก้านดอกเรียงราย แลดูสบสม
.
รูปสิงห์รูปโต สารพัดน่าชม
รูปอินทร์รูปพรหม เทพประนมเรียงราย
มีทั้งล่องจก กระหนกหนกลาย
ระแบบระบาย แม่ลายกระหนก
.
ยังเล่าเสาตั้ง แอบดั้งเป็นคู่
ตุ๊กตามีอยู่ เป็นคู่เรียงรัน
สี่ชั้นห้าชั้น ถัด ๆ กันไป
ชั้นใต้ชั้นบน จนสุดแปไซร้
.
เชิงชายหน้าจาก ลดมุขออกไป
ปรุงเสร็จสรรพไว้ ไม่ค้างเกินใส่
เสาถากลากลวด กวดขันชันใส
น้ำมันชันแวว แล้วเสร็จเหม็ดไป
ดูงามวิไล ใครไม่เทียมทัน
.
ทั้งเมืองนคร ใครห่อนเห็นนั้น
ซึ่งจักเทียมทัน นั้นหาไม่มี
หน้าจั่วรูปครุฑ ยุดนาคบินหนี
ตีนวาสุกรี รวบรัดแข็งขัน
.
รูปพรหมสี่หน้า ไอยราทรงขี่
สามเศียรคชชี หกงากวดขัน
สับคับรับเครื่อง ประดับเอราวัณ
สองตาซับมัน คชวันเทวา
.
เศียรทรงมงกุฎ ธัมรงค์ที่สุด สอดใส่งวงงา
แลดูวาววับ ทับแสงสุริยา
มีรูปเทวัน ห้อมล้อมชายฝา
เกลื่อนกลาดดาษดา กายาสบสม
.
พระกรจับขรรค์ ทรงสร้อยสุวรรณ รเห็จธิญาณ
บ้างเป็นรูปสัตว์ สิงโตโคอัด ทำไว้ต่าง ๆ
ดอกไม้กบิลภัณฑ์ บางเป็นเครือวัลย์ ก้านขัดรัดรึง
เกี่ยวก้านขัดแย้ง ห้อยย้อยตามกัน
ดอกอินดอกจัน ทุกชั้นช่างทำ ดูกระเด่นเห็นดี
.
ชั้นถัดลงไป หว่างดอกมาลี
ศักราชจำไว้ ครือวันเดือนปี
ใครอ่านรู้แจ้ง คำแถลงครั้งนี้
ว่าครูมูนี ผู้ที่ชักนำ
.
อักขระบอกไว้ ให้รู้แม่นยำ
ได้ชวนกันทำ สามใบในจั่ว
จำหนงตัวนาย ทำไว้ไม่ชั่ว
สิ้นบุญของตัว ความคิดมิหาย
นี้แลจำหนง ฉันจะยกชื่อไว้
ท่านทั้งสองนาย อย่าได้เสียใจ