ขนมแคง : เสน่ห์ปลายน้ำคลองอู่ตะเภา กับเรื่องเล่ารสละมุนแห่งบ้านทุ่งน้ำ

“ขนมแคง” อาจไม่ใช่ชื่อที่คุ้นหูคนทั่วไป แต่สำหรับคนสงขลา โดยเฉพาะชาวบ้านทุ่งน้ำ ตำบลคลองแห อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ขนมชนิดนี้คือความอร่อยที่คุ้นลิ้นและผูกพันมาตั้งแต่วัยเยาว์ เป็นขนมแป้งจี่ในกระทะ ที่ซ่อนไส้มะพร้าวทึนทึกไว้ตรงกลางม้วนกลมอย่างลงตัว รสชาติไม่หวานจัด เข้ากันได้ดีกับมะพร้าวที่ค่อนข้างอ่อน เคี้ยวหนึบหนับให้รสสัมผัสที่น่าเพลิดเพลิน ยิ่งได้ลิ้มรสตอนร้อน ๆ จากเตา ยิ่งอร่อยจนวางไม่ลง

เจ้าของตำนานความอร่อยนี้คือ คุณป้า(วะ) หญิงคนแขกสงขลาแห่งบ้านทุ่งน้ำ สมเสื้อแขนยาว คลุมผ้าห่มหรือผ้าคลุมปกปิดเส้นผมมิดชิดตามหลักความเชื่อทางศาสาอิสลาม เป็นร้านเล็กๆใช้ตะกร้าเป็นโต๊ะตั้งถาดขนม ข้างในมีใบตองรองไว้ มีกระทะหนึ่งใบ เจียนฉี่(ตะหลิ่ว)หนึ่งอัน และเตาแก๊สหนึ่งถัง ถั่งใส่แป้งหนึ่งใบและน้ำมันที่ผสมไข่แดงสำหรับทาบนกระทะตอนจีขนม ตั้งแบกับดินมองดูแล้วเห็นความเรียบง่าย ซึ่งยังพบได้ตามตลาดนัดบ้านๆ ในพื้นที่แถบนี้

สำหรับผู้เขียนแล้ว ขนมแคงของ”วะ” ทุกครั้งที่ได้กลับมาเยือนบ้านเกิด จะไม่พลาดที่จะมาอุดหนุน ขนมราคาเพียงแผ่นละ 5 บาท แต่เต็มไปด้วยน้ำใจจากผู้ขายที่มักจะแถมให้เสมอ นี่คือความใจดีที่ลูกค้าทุกคนสัมผัสได้ “ขายมั่ง ทำบุญมั่ง” คือถ้อยคำเรียบง่ายที่สะท้อนความงดงามในจิตใจของ”วะ”

แคง : ชื่อเรียกที่ซ่อนเทคนิค และความสับสนที่น่าอมยิ้ม

ที่มาของชื่อ “แคง” นั้น เชื่อกันว่าน่าจะมาจากกรรมวิธีการทำ นั่นคือการตักแป้งใส่ในกระทะแล้วต้อง “ตะแคง” กระทะเพื่อให้แป้งแผ่เป็นแผ่นกลม ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะที่ทำให้ขนมมีความบางและนุ่มนวล แต่เรื่องราวที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือความหลากหลายในการเรียกชื่อขนมชนิดเดียวกันนี้ ระหว่างรอขนม ผู้เขียนมักได้พูดคุยกับ”วะ” และได้ฟังเรื่องเล่าเกี่ยวกับลูกค้าที่เรียกชื่อขนมแคงว่า “ขนมลาทะ” (ลา แปลว่า ทา ทะคือ กระทะ), “ขนมกรอก” “ขนมปำจี” คือชื่อที่ลูกค้าจากหมู่บ้านอื่น ๆ ใช้เรียกขนมชนิดนี้

แต่เรื่องที่ทำให้ทั้ง”วะ” และผู้เขียนต้อง “อมยิ้มและขำกัน” คือกรณีที่มีลูกค้ามาถามหา “ขนมเบื้อง” เมื่อได้ยินดังนั้น “วะ” จึงชี้ไปยังร้านขาย “ขนมครก” ที่อยู่ตรงข้าม เพราะในความเข้าใจของคนสงขลาหรือลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาหลายพื้นที่นั้น “ขนมครก” ถูกเรียกว่า “ขนมเบื้อง”

ทว่า… เมื่อลูกค้าเดินไปดูแล้วกลับมาบอกว่าไม่ใช่ และขอเปิดดูขนมในถุงของ”วะ” พอเห็นปุ๊บก็ร้องขึ้นมาว่า “นี่แหละขนมเบื้องที่ตามหาอยู่!” เหตุการณ์นี้เป็นเครื่องยืนยันอย่างดีว่าชื่อเรียกขนมมีเสน่ห์ที่สะท้อนตัวตนของผู้คนอย่างแท้จริง

ความงามของชื่อเรียกที่แตกต่าง

ชื่อเรียกขนมจึงเป็นมากกว่าแค่การกำหนดสิ่งของ เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงรากเหง้า ตัวตน และความแตกต่างหลากหลายของผู้คนแต่ละพื้นที่ บางขนมอาจมีชื่อเรียกเหมือนกันแต่เป็นคนละชนิด บางขนมมีชื่อเรียกต่างกันแต่กลับเป็นขนมเดียวกัน ความหลากหลายทางภาษาและวัฒนธรรมอาหารนี้เองที่สร้างความสวยงามและมิติที่น่าค้นหาให้กับ “ขนมแคง” แห่งบ้านทุ่งน้ำ การได้กลับมากินขนมแคงที่คุ้นลิ้นมาตั้งแต่วัยเด็ก พร้อม ๆ กับการได้ฟังเรื่องเล่าดี ๆ จาก”วะ” จึงเป็นความสุขที่ “อิ่มท้องแล้วยังอิ่มใจ”

สำหรับผู้ที่สนใจลิ้มลอง สามารถตามมาชิมขนมแคงของ”วะ” ได้ทุกวันที่บริเวณใกล้กับ โรงเรียนบ้านทุ่งน้ำ

(พิกัด : https://maps.app.goo.gl/zXcFWuoX344RbepE9) “วะ” บอกว่าวันไหนหามะพร้าวไม่ได้ก็จะหยุดขาย ในวันอาทิตย์เป็นวันตลาดนัดเช้า มีของขายมากมาย จึงเป็นวันที่แนะนำให้แวะมาอุดหนุนกันครับ

เผยแพร่ครั้งแรกใน : https://www.facebook.com/share/p/17REJevfae/

สามารถ สาเร็ม

คนแขกลุ่มทะเลสาบ ที่ชอบตามหาของแปลก ๆ ตามตลาดนัด

ใส่ความเห็น