
“ลูกลำพู”
“…หกหูเจาะรู หน้าบาง นั่งห้อยห่าง กางร่มเล่น…” ปริศนาคำทาย ของ “วะ” (คุณลุง)ท่านพูดขึ้น เมื่อผมกับท่านยืนอยู่ใต้ต้นไม้ขนาดใหญ่ ที่มีรากโผ่พ้นน้ำ ทำหน้าที่หายใจและดูเสมือนเป็นกำแพงป้องกันลำต้น พูดเช่นนี้ทุกท่านคงรู้แล้วว่าผมหมายถึงต้นลำพูนั่นเอง ปริศนาคำทายข้างต้นคำเฉลยก็คือ “ลูกลำพู” นั่งเองครับ
ขึ้นอยู่ริม “คลองอู่ตะเภา” ตอนล่าง บริเวณบ้านเกาะนก ตำบลคูเต่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ในที่ดินของคุณลุงที่ “วะ” เรียกท่านว่า “พี่” ซึ่งไม่ได้เกิดจากแม่คนเดียวกัน แต่เสมือนมีแม่คนเดียวกัน มีสถานะความเป็นเครือญาติ ผ่านวัฒนธรรมการเป็นเกลอกันของคนรุ่นแม่ของท่านทั้งสอง โดย “วะ” จะเรียกแม่ของเจ้าของสวนว่า “นม” เนื่องจากลูกของท่านใช้เป็นำเรียกหมายถึงแม่ ในขณะเดียวกันลูกของนม (พี่ที่วะเรียกป จะเรียกแม่ของวะ ว่า “มะ” คำมลายูที่คนมุสลิมสงขลาหรือมุสลิมในลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาใช้เรียก “แม่”
แม้พวกท่านเหล่านั้นจะกลับบ้านเก่าหรือล่วงลับ กันไปหมดแล้ว แต่คนรุ่นหลังยังคงรู้จักกันและกัน “วะ” จะเดินทางด้วยรถพ่วงข้างมาส่วนแห่งนี้ เป็นประจำ เพื่อตัดหญ้า นำมาเลี้ยงวัวของท่าน

ในขณะที่ “วะ” ตัดหญ้า ผมมองที่ใต้ต้นลำพู ใช้สายตากวาดหาลูก ”ลำพูสุก” ที่ตกลงมาใต้ต้น เพราะตอนเด็ก ๆ เคยได้กิน ยังจดจำรสชาติที่แสนอร่อย ของผลไม้ชนิดนี้ได้ดี เป็นผลไม้บ้านๆ มีรสเปรี้ยวและมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ คล้ายกลิ่นหอมของลูกจำปาดะอยู่เหมือนกัน ในการรับรู้ของผู้เขียน ท่านอื่นอาจดมแล้วพบว่าเหมือนผลไม้ชนิดอื่นก็ได้ครับ ลูกที่สุกแล้วตกลงมานั้นจะไม่มีรสฝาด แต่ต้องสังเกตให้ดี เพราะบางลูกจะเน่าไปบ้าง วันนี้ผมหามาได้สี่ลูก มีเน่าบ้างบางส่วน


ซ้ายลูกลำพู ขวา ดอกลำพู
“วะ” ตัดหญ้าเสร็จปีนขึ้นไปเก็บลูกลำพูยังไม่ค่อยสุกมากนัก ลูกระยะนี้จะมีรสชาติฝาดเยอะหน่อย เอาไปบ่มไว้ก็ได้เหมือนกัน และได้ “ดอกลำพู” ลงมาหนึ่งดอกด้วย กลับถึงบ้านควนผมจัดการล้างลูกลำพู แล้วผ่าเป็นชิ้น ซึ่งจะมีเมล็ดจำนวนมาก จิ้มเกลือกิน จะบ้วนเมล็ดออกก็ได้ กลืนลงไปก็ไม่อันตรายแต่อย่างใด

และแบ่งบางส่วนให้ “วะ” คุณป้า ภรรยาของ “ว” (คำว่า วะหมายถึงลุงหรือป้า) ทำ “น้ำชุบลูกลำพู” กินกัน “น้ำชุบ” ในบริบทคนพูดไทยถิ่นใต้คือ “น้ำพริก” ของคนพูดภาษาภาคไทยกลางครับ ท่านบอกว่าได้สูตรมาจากคู่สะใภ้ ที่เป็นคนมุสลิมมลายูเรียกตนเองว่า “ออแรนายู” (มลายูปตานี) ทำให้กินเมื่อปีที่แล้ว โดยมีวัตถุดิบเหมือนน้ำชุบอื่น ๆ ต่างตรงผลไม้รสเปรี้ยวที่ใช้ “ลูกลำพู” แทน


วัตถุดิบมีดังนี้
1.ลูกลำพู ขูดเอาเฉพาะเนื้อเเยกเมล็ดออก
2.ลีปปลีสด(Chilli)
3.น้ำตาลทราย จะใช้ น้ำตาลเเว่นก็ได้
4.เกลือจากนาเกลือที่ปัตตานี (ฆาแรมานิ = เกลือหวาน)
5.หอมแดง
6.กระเทียม
7.เคย(กุ้ง) หรือ กะปิ


วิธีทำ
1.ล้างลูกลำพูให้สะอาด ผ่าเป็นชิ้น เอาเมล็ดออก ขูดเอาเนื้อเพียงอย่างเดียว
2.ตำ ลีปปลี(Chilli) หอมแดง กระเทียม เกลือ น้ำตาลทรายให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน
3.ใส่เคย(กุ้ง) ลงไปตำให้ผสมเป็นเนื้อเดียวกัน
4.ใส่เนื้อของลูกลำพูลงไปในครก แล้วใช้ช้อนคนให้เข้ากัน ชิมรสชาติให้เปรี้ยวนำเค็มเจือด้วยหวานนิดๆ หรือแล้วแต่ความชอบ

“น้ำชุบลูกลำพู” ถ้วยนี้ พวกเรากินกับผักเหนาะ คือ ดอกลำพูมีรสฝาดนิดๆ จากต้นเดียวกัน และผักสดอีกสองชนิดคือ “ยอดม่าว” (มะม่าว) มีรสเปรี้ยวกับ “ผักบุ้ง” ที่มีความมัน ผมเก็บมาจากบริเวณเดียวกันต้นลำพูเช่นกัน…


หมายเหตุ
“วะ” มุสลิมรอบลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาใช้เรียก ลุงหรือป้า
อ่านเพิ่มใน
– “นม” คำเรียกแม่ของคนไทยลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา
.- “มะ” คำเรียกแม่คนมุสลิมลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา